วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

สารป้องกันและกำจัดโรคพืช ตอนที่ 20

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำ ชื่อสารเคมี(ชื่อสามัญ) ชนิดต่างๆ  มาเผยแพร่ให้เกษตรกร,ผู้สนใจ,ฯลฯ ได้รู้ถึงประโยชน์, อันตราย, และความเป็นพิษเพื่อจะได้เลือกใช้สารเคมีอย่างระมัดระวัง(ในกรณีที่จำเป็น) มิได้ต้องการส่งเสริมให้เกษตรกรหรือผู้อ่านใช้สารเคมีเพิ่มขึ้น เพียงแต่หากจำเป็นต้องใช้สารเคมี  ก็ควรใช้อย่างรู้คุณและโทษของมันอย่างถูกต้อง และได้ประโยชน์ คุ้มค่ากับเงินลงทุนที่เสียไปทุกบาททุกสตางค์ และไม่ทำให้ผู้บริโภครวมถึงตัวเกษตรกรและผู้ใช้เองต้องตกเป็นเหยื่อของพิษ ภัยจากการใช้สารเคมีโดยมิได้รู้แจ้ง ซึ่ง ทางผู้โพสหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรและบุคคลทั่วไปไม่มากก็น้อย  สำหรับท่านที่มีเพื่อน,มิตร,ญาติสนิท,ฯลฯ ที่ทำเกษตร หรือเกี่ยวข้องทางด้านนี้อยู่ ก็รบกวนช่วยนำไปเผยแพร่นะครับ ผมเองได้ข้อมูลมาตั้งแต่สมัยที่ยังทำการเกษตรอยู่ จาก หนังสือ "สารกำจัดศัตรูพืชในประเทศไทย"  เป็นหนังสือที่หาค่อนข้างยาก ปัจจุบันไม่ทราบว่ามีตีพิมพ์อีกหรือไม่ แต่ข้อมูลก็ยังสามารถใช้ได้ดีอยู่ จึงอยากนำมาเผยแพร่ให้คนรักต้นไม้,เกษตรกร,หรือคนที่เกี่ยวข้องได้ทราบกัน
 (นายยักษ์เขียว)




ไธแรม
(thiram)
การออกฤทธิ์             เป็นสารกำจัดเชื้อรา  dithiocarbamate  ออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกันโรคพืชและเป็นสารขับไล่สัตว์บางชนิด
ความเป็นพิษ             มีพิษเฉียบพลันทางปาก  (หนู)  780  มก./กก.  ทางผิวหนัง  มากกว่า  1,000  มก./กก.  ทำให้ดวงตา  ผิวหนังและระบบทางเดินหายใจเกิดอาการระคายเคือง
โรคพืชที่กำจัดได้        โรคเน่าคอดิน  โรคเมล็ดเน่า  โรค  Seedling  blights  โรค  Brown  patch  Dollar  spot  โรคสแคป  โรคราสนิม  โรคเน่าดำ  โรค  Sooth  blotch  โรค  Rhizocpus  rot , Botrytisfruit  rot  โรคใบจุด  มะเขือเทศ  โรค  Late  blight  และอื่น ๆ
พืชที่ใช้                   กล้วย  แอปเปิล  คื่นฉ่าย  มะเขือเทศ  สตรอเบอร์รี่  ฝ้าย  หอม  มันฝรั่ง  พืชหัวต่าง ๆ  ใช้คลุกเมล็ด  ถั่วต่าง ๆ  คะน้า  มะเขือ  พริกไทย  ฟักทอง  แตงโม  กะหล่ำปลี  แคนตาลูป  กะหล่ำดอก  ฝ้าย  ข้าว  มะเขือเทศและข้าวสาลี
สูตรผสม                  75ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้        ถ้าคลุกเมล็ด  ใช้อัตรา  2.5-5  กรัมต่อเมล็ด  1  กก.  ถ้าฉีดพ่น  ใช้อัตรา  30-50  กรัม  ผสมกับน้ำ  20  ลิตร  ฉีดพ่นให้ทั่วต้นพืช
อาการเกิดพิษ            ถ้าถูกผิวหนังและมีอาการแพ้  จะมีอาการคัน  เป็นผื่นแดง  ถ้าสูดดมเข้าไปจะเกิดอาการไอ  หายใจไม่สะดวก  ถ้ากลืนกินเข้าไปจะมีอาการคลื่นไส้  อาเจียน  ปวดท้อง  ท้องร่วง  เหงื่อออก  ถ้าพิษรุนแรงจะมีอาการชักและหมดสติ
การแก้พิษ                ถ้าเกิดพิษที่ผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่  ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดนานประมาณ  10-15  นาที  ถ้ากลืนกินเข้าไป  ทำให้คนไข้อาเจียนด้วยการล้วงคอหรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่น  แล้วนำผู้ป่วยส่งแพทย์  สำหรับแพทย์  ถ้าผู้ป่วยมีสติดีอยู่  ช่วยทำให้คนไข้อาเจียนโดยใช้ยา  syrup  of  ipecac  แล้วตามด้วยน้ำ  1-2  ถ้วย  ถ้าไม่อาเจียน  ทำให้ท้องว่างด้วย  Intubation , Aspiration  และ  Lavage  แล้วรักษาตามอาการ  ห้ามมิให้คนไข้ดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่เป็นเวลา  3  สัปดาห์
ข้อควรรู้                    - ระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว  1-2  อาทิตย์
                             - อย่าจับต้องเมล็ดที่คลุกสารชนิดนี้ด้วยมือเปล่า
                             - เข้ากับสารกำจัดแมลงและสารกำจัดเชื้อราทั่ว ๆ ไปได้

โทลโคลฟอส  เม็ทธิล
(tolclofos  methyl)
การออกฤทธิ์             เป็นสารกำจัดเชื้อรา  organophosphate  ประเภทไม่ดูดซึม  ออกฤทธิ์เมื่อสัมผัสถูกและให้ผลในทางป้องกันโรคพืช
ความเป็นพิษ             มีพิษเฉียบพลันทางปาก  (หนู)  5,000  มก./กก.  ทางผิวหนัง  มากกว่า  5,000  มก./กก. 
โรคพืชที่กำจัดได้        ใช้กำจัดโรคพืชที่เกิดอยู่ในดิน  เชื้อ  Rhizoctonia , Sclerotinium  และ  Typhula  spp.  ซึ่งทำให้เกิดโรคเน่าคอดิน  โรคลำต้นเน่าและอื่น ๆ
พืชที่ใช้                   มันฝรั่ง  ฝ้าย  ถั่วลิสง  พืชตระกูลแตง  ข้าวสาลี  ผักกาดหอม  และต้นกล้าของไม้ดอก  ไม้ประดับทั่วไป
สูตรผสม                  50ดับบลิวพี  20อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้        ใช้ได้หลายวิธีคือ  คลุกเมล็ด  ใช้จุ่มพืชหัว  ใช้ราดโคนต้น  และใช้ฉีดพ่นที่ใบ  โดยมีอัตราการใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก
การแก้พิษ                ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ  รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้                    - เป็นพิษต่อปลา
                             - ห้ามผสมกับสารอื่นที่มีฤทธิ์เป็นด่าง
                             - มีความคงตัวเมื่ออยู่ในดิน

ไตรอะไดมีฟอน
(triadimefon)
การออกฤทธิ์             เป็นสารกำจัดเชื้อรา  triazole  ประเภทดูดซึม  ออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกัน  และบำบัดรักษาโรคพืช  ดูดซึมเข้าลำต้นได้ทั้งทางใบและราก
ความเป็นพิษ             มีพิษเฉียบพลันทางปาก  602  มก./กก.  ทางผิวหนัง  มากกว่า  2,000  มก./กก.  อาจทำให้ดวงตาและผิวหนังระคายเคือง
โรคพืชที่กำจัดได้        โรคราสนิม  โรคราแป้ง  โรคกลิ่นสัปปะรด  โรคแส้ดำ  Cercospora  โรคเน่าสีน้ำตาล  Fusarium , Puccinia , Ustilago , Uromyces , Cladosporium , Venturia  โรคสแคป  โรคสมัทและอื่น ๆ
พืชที่ใช้                   อ้อย  กาแฟ  ถั่วเหลือง  เงาะ  ข้าวสาลี  องุ่น  สัปปะรด  แอปเปิล  พืชตระกูลแตง  กุหลาบ  ไม้ผลและอื่น ๆ
สูตรผสม                  25ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้        ถ้าใช้ฉีดพ่น  ใช้อัตรา  10-20  กรัม  ผสมกับน้ำ  20  ลิตร  ฉีดพ่นให้ทั่วต้นพืช  ถ้าใช้แช่ท่อนพันธุ์  ใช้อัตรา  40-50  กรัม  ผสมกับน้ำ  20  ลิตร  แช่ท่อนพันธุ์นาน  30  นาที  จึงนำไปปลูก
อาการเกิดพิษ            จะมีอาการคลื่นไส้  อาเจียน  เซื่องซึมและตี่นเต้น
การแก้พิษ                ถ้าถูกผิวหนังหรือเข้าตา  ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก ๆ  ถ้ากลืนกินเข้าไปต้องทำให้อาเจียนโดยเร็ว  ด้วยการล้วงคอหรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่น  แล้วนำส่งแพทย์  ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ  รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้                    - ระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว  14-21  วัน
                             - ผสมได้เฉพาะกับสารกำจัดศัตรูพืชอื่นที่อยู่ในรูปดับบลิวพี  (WP)
                             - เป็นพิษต่อปลา  ไม่เป็นพิษต่อผึ้ง
                             - ใช้ผสมในขณะฉีดพ่นร่วมกับสารกำจัดศัตรูพืชอย่างอื่นได้
ไตรไซคลาโซล
(tricyclazole)
การออกฤทธิ์             เป็นสารกำจัดเชื้อรา  triazolobenzothiazole  ประเภทดูดซึม
ความเป็นพิษ             มีพิษเฉียบพลันทางปาก  (หนูอัลปิโน)  250  มก./กก.  (หนู)  305  มก./กก.  ทางผิวหนัง  มากกว่า  2,000  มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้        โรคใบไหม้  ที่เกิดจากเชื้อ  Pyricularia  oryzae  และโรคจุดสีน้ำตาล  ที่เกิดจากเชื้อ  Drechslera  spp.
พืชที่ใช้                   ข้าว  ข้าวบาร์เลย์
สูตรผสม                  75ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้        ถ้าฉีดพ่นใช้อัตรา  10-16  กรัม  ผสมกับน้ำ  20  ลิตร  ถ้าคลุกเมล็ด  ใช้อัตรา  2  กรัม  ต่อเมล็ดหนัก  1  กก.  คลุกเมล็ดก่อนปลูก
อาการเกิดพิษ            ถ้าเข้าตาจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง
การแก้พิษ                ถ้าถูกผิวหนังหรือดวงตาให้ล้างด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก ๆ  ถ้ากลืนกินเข้าไปให้คนไข้ดื่มน้ำ  1-2  แก้ว  แล้วทำให้อาเจียนด้วยการล้วงคอ  หรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่น  แล้วนำส่งแพทย์  ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ  รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้                    - เป็นพิษต่อปลา
                             - ในขณะฉีดพ่น  ให้เขย่าถังฉีดอยู่เสมอ
                             - ดูดซึมและเคลื่อนย้ายในต้นพืชได้อย่างรวดเร็ว
                             - อาจใช้ผสมในขณะฉีดพ่นกับสารกำจัดศัตรูพืชชนิดอื่น ๆ ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น