วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แนวทางการจัดการต้นไม้ในสนามกอล์ฟ เพื่อลดต้นทุนและลดการใช้สารเคมี

แนวทางการจัดการต้นไม้ในสนามกอล์ฟ เพื่อลดต้นทุนและลดการใช้สารเคมี

 

    ธุรกิจสนามกอล์ฟเป็นธุรกิจการใช้ที่ดิน ที่ให้ผลตอบแทนที่มีมูลค่ามาก ในช่วงที่ราคาที่ดินสูงขึ้นทำให้ธุรกิจประเภทนี้เกิดขึ้นมากมาย แต่ละสนามต่างมีกลยุทธ์ที่จะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงเป็นหน้าที่ของผู้ดูแลสนามที่จะต้องทำให้สนามมีความสวยงามอยู่ตลอดเวลา
    สนามกอล์ฟจัดได้ว่าเป็นการเกษตรรูปแบบหนึ่ง เนืองจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสนามหญ้า นับว่าเป็นแหล่งอาหารของศัตรูพืชที่มีขนาดใหญ่ ทำให้มีศัตรูพืชเข้าทำลายมาก ผู้ดูแลสนามจึงมีบทบาทในการควบคุมไม่ให้ศัตรูพืชเข้าทำลายสนามหญ้าได้หรือ ต้องรีบทำการกำจัดหากพบวามีการระบาดของศัตรูพืช วิธีการกำจัดศัตรูพืช เช่น การกำจัดโดยใช้แรงงานคนงาน การกำจัดโดยวิธีทางชีวภาพ หรือการใช้สารเคมี บางสนามกอล์ฟอาจมีการกำจัดศัตรูพืชแบบผสมผสาน คือ หากมีการระบาดของศัตรูพืชเป็นจำนวนน้อยจะใช้แรงงานหรือใช้วิธีทางชีวภาพ แต่ถ้าศัตรูพืชเข้าทำลายเป็นจำนวนมาก จึงจะใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชฉีดพ่น


    เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน สนามกอล์ฟแต่ละสนามมีนโยบายในการลดค่าใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ ของสนามลง ซึ่ง 50% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะอยู่ในส่วนของการดูแลรักษาสนาม ผู้บริหารจึงหาทางที่จะลดค่าใช้จ่ายทางด้านนี้ แต่ยังคงความสวยงามของสนามหญ้าไว้เช่นเดิม
    วิธีการลดค่าใช้จ่ายของสนามวิธีการหนึ่งคือ ลดปริมาณสารเคมีทีใช้ในสนามลง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนชนิดของปุ๋ยที่ใช้จากปุ๋ยเคมีมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือ วัสดุปรับปรุงดินอินทรีย์ ซึ่งปุ๋ยอินทรีย์จะให้ผลดีกว่า เพราะนอกจากจะช่วยปลดปล่อยธาตุอาหารที่จำเป็นแก่หญ้าและต้นไม้แล้วยังช่วย ปรับสภาพโครงสร้างของดินให้ดีขึ้นด้วย หรือใช้วิธีการกำจัดศัตรูพืชวิธีอื่นนอกเหนือจากการใช้สารเคมี เช่น การใช้วิธีทางชีวภาพ โดยใช้ชีวภัณฑ์จำพวกเชื้อราหรือแบคทีเรียในการกำจัดและควบคุมศัตรูพืช กับดักแสงไฟ การกำจัดโดยวิธีกล การเลือกใช้พันธุ์หญ้าพื้นเมือง เช่น หญ้านวลน้อยแทนการใช้พันธุ์หญ้าต่างประเทศ เช่น หญ้าเบอร์มิวด้า อาจจะทำให้การเล่นยากขึ้น เนื่องจากพันธุ์หญ้าพื้นเมืองมีใบแข็งกว่า แต่ความทนทานต่อศัตรูพืช และการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมดีกว่าหญ้าพันธุ์ต่างประเทศ ทำให้การใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืชลดน้อยลง
    อีกวิธีที่ช่วยลดปริมาณการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช คือ การเลือกใช้ต้นไม้ปลูกในสนาม ซึ่งแนวทางการใช้ต้นไม้ในสนามกอล์ฟโดยทั่วไปมีจุดประสงค์ดังนี้


    1. เพื่อการใช้สนาม และความสวยงาม


       1.1 เพื่อความสวยงาม เป็นจุดประสงค์หลักของการเลือกใช้ต้นไม้ มีข้อพิจารณาสำหรับการเลือกใช้ต้นไม้ปลูกดังนี้ ลักษณะการเจริญเติบโต สีของดอก ช่วงเวลาในการออกดอก ลักษณะของต้นไม้ใหญ่จะต้องมีทรงพุ่มสวยงาม กิ่งไม่เปราะหักง่าย ไม่ผลัดใบ หรือมีใบที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เป็นต้น โดยจะปลูกเป็นกลุ่มมากกว่าที่จะปลูกกระจายทั่วทั้งสนามบริเวณที่ปลูกไม้ใหญ่ โดยมากมักปลูกบริเวณราฟ ชนิดของไม้ใหญ่ที่ปลูก เช่น นนทรี ประดู่ ลั่นทม ปาล์มชนิดต่าง ๆ


       1.2 เพื่อใช้สร้างจุดเด่นให้สนาม สนามกอล์ฟบางสนามเลือกใช้ต้นไม้ที่ต้องการให้เป็นจุดเด่นของสนาม เช่น การปลูกต้นไม้ที่มีดอกหอม ได้แก่ โมก เข็มขาว แก้ว หรือมีการใช้ไม้ไทย ได้แก่ การเวก สุพรรณิกา สารภี ชวนชม เป็นต้น
       อาจมีการใช้ต้นไม้ที่มีดอกสีเดียวกัน ได้แก่ นนทรี รำเพย กระถินณรงค์ ประดู่ ลั่นทม ปาล์มชนิดต่าง ๆ หรืออาจมีการสร้างจุดเด่นของสนามโดยการเลือกใช้ชนิดต้นไม้ ในการสร้างจุดเด่นของสนามอีกวิธีหนึ่งคือการเลือกใช้ต้นไม้ที่ทนแล้งเพื่อ ใช้ประกอบกับ รูปแบบ ของสนามแบบทะเลทราย เพื่อเพิ่มความยากในการเล่น การเลี้ยงหญ้าบริเวณราฟให้ยาว เพื่อให้เกิดความท้าทาย

       1.3 เพื่อการแบ่งบริเวณพื้นที่ระหว่างหลุม เป็นการใช้ต้นไม้เพื่อการแบ่งพื้นที่หลุมที่ติดกัน ทำให้ผู้เล่นไม่สับสนระหว่างการเล่น และเป็นการใช้แบ่งเส้นทางสัญจรในสนาม การปลูกต้นไม้เพื่อใช้แบ่งบริเวณจะเน้นการใช้ไม้ต้นใหญ่ เช่น นนทรี สน ประดู่ มะพร้าว ชมพู่พันธุ์ทิพย์ เป็นต้น


       1.4 เพื่อเป็นอุปสรรคของการเล่น ต้นไม้ยังสามารถใช้เป็นสิ่งกีดขวางประเภทหนึ่งได้ ทำให้การเล่นยากขึ้น ซึ่งสนามกอล์ฟส่วนใหญ่จะใช้ต้นไม้เพื่อจุดประสงค์นี้ การเลือกใช้ต้นไม้เพื่อเป็นอุปสรรคของการเล่นจะต้องเป็นต้นไม้ที่มีกิ่ง เหนียว ไม่เปราะหักง่าย รูปทรงค่อนข้างกะทัดรัดกิ่งไม่เกะกะ สามารถทนแรงกระแทกของลูกกอล์ฟได้ ชนิดของต้นไม้ เช่น สะเดาอินเดีย ปาล์มน้ำมัน ตาล นนทรี เป็นต้น


       1.5 เพื่อใช้เป็นแนวกันลม สนามกอล์ฟที่มีพื้นที่ติดบริเวณชายทะเลมักจะประสบปัญหาเรื่องลมแรง การเลือกใช้ต้นไม้จะเลือกใช้ต้นไม้ที่ลดความเร็วของลมได้บ้าง จนไม่เป็นอุปสรรคต่อการเล่น เพราะหากว่าการเล่นกอล์ฟจะต้องเจอกับสภาพลมแรงมาก ๆ ทำให้นักกอล์ฟไม่สามารถตีลูกไปยังทิศทางที่ต้องการได้ ดังนั้นการใช้ต้นไม้เพื่อลดความเร็วของลม ทำให้การเล่นเป็นไปได้ราบรื่นขึ้น ชนิดของต้นไม้ที่ใช้ปลูกเป็นแนวกันลม เช่น สนประดิพัทธ์ กระถินณรงค์ มะพร้าว เป็นต้น


       1.6 เพื่อใช้เป็นแนวกันน้ำ ในสนามกอล์ฟที่มีพื้นที่ติดกับภูเขา มักจะเกิดปัญหาในเรื่องความแรงของน้ำในฤดูฝน น้ำที่มีความแรงจะไหลลงจากภูเขาสู่สนามอย่างรวดเร็ว ทำให้ดิน และต้นไม้พังทลาย จะต้องทำการซ่อมแซมทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ทางสนามที่ประสบกับปัญหานี้จะมีการปลูกไม้พุ่มที่มีพุ่มสานกันแน่นเพื่อลด ความแรงของน้ำ การปลูกจะใช้ต้นไม้ประมาณ 1-2 ชนิดปลูกเป็นชั้น เพื่อการซับน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ชนิดของต้นไม้ที่ใช้ เช่น เทียนทอง ไทรยอดทอง หูปลาช่อน ผักเป็ดเขียว-แดง เป็นต้น
       บางสนามที่ต้องการการดูแลรักษาต้นไม้ต่ำ จะเน้นการใช้ต้นไม้ใหญ่ มากกว่าการใช้ไม้พุ่มและไม้คลุมดิน เนื่องจากต้นไม้ใหญ่มีการดูแลรักษาที่ต่ำกว่า การใส่ปุ๋ย การตัดแต่งน้อยกว่า และหากมีโรคและแมลงเข้าทำลาย จะสังเกตได้ไม่ชัดเท่าไม้พุ่มและไม้คลุมดินที่จะพบ การเข้าทำลายของโรคและแมลงได้ง่าย ดังนั้นการเลือกใช้ต้นไม้ใหญ่จะทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนของการดูแล รักษาได้


    2. เพื่อใช้ในการควบคุมแมลงและวัชพืช นับเป็นจุดประสงค์ในการใช้ต้นไม้เพื่อช่วยลดปริมาณการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้


       2.1 เพื่อใช้เป็นแนวกันวัชพืช สนามกอล์ฟในต่างจังหวัดที่มีพื้นที่ติดภูเขา จะมีการปล่อยพื้นที่ของสนามบางส่วนให้เป็นสวนป่า ไม่มีการตัดแต่งต้นไม้หรือการใส่ปุ๋ย ให้ต้นไม้ขึ้นได้ตามธรรมชาติ มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการบุกรุกของวัชพืชที่ไม่ต้องการให้ขึ้นในพื้นที่สนาม ซึ่งหากเป็นฤดูฝนจะมีเมล็ดวัชพืชไหลปะปนกับน้ำเข้ามาในสนาม หากต้องทำการกำจัดจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการแก้ไขปัญหาคือ ทำการปลูกไม้พุ่มเป็นแนวซ้อนกันประมาณ 1-2 ชั้น เพื่อการป้องกันวัชพืช ทั้งที่เป็นต้นและส่วนที่เป็นเมล็ดที่จะเข้ามาในฤดูฝน นอกจากจะช่วยป้องกันวัชพืชได้แล้ว ยังช่วยให้สนามมีความสวยงาม ช่วยแบ่งขอบเขตที่เป็นพื้นที่ป่าและพื้นที่สนามให้แยกออกจากกันได้ ทำให้นักกอล์ฟทราบว่าควรที่จะตีลูกให้ตกบริเวณใด


       2.2 เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยและใช้ผลเป็นอาหารของนกเพื่อช่วยกำจัดแมลง สนามกอล์ฟบางสนามมีการเลือกชนิดของต้นไม้ที่สามารถใช้เป็นที่อยู่ของนก และให้ผลที่นกสามารถใช้เป็นอาหารได้ เพื่อจุดประสงค์ในการเพิ่มปริมาณนก และใช้ประโยชน์จากนกเพื่อช่วยกำจัดหนอนแมลงที่เข้ามาทำลาย สนามหญ้า ชนิดของต้นไม้ที่ปลูก เช่น ตะขบ หว้า ไทร ข้าวฟ่าง เป็นต้น
    สนามกอล์ฟในต่างจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับภูเขา จะมีการปล่อยพื้นที่ให้เป็นสวนป่าธรรมชาติ มีต้นไม้หลายชนิดขึ้นในบริเวณนั้น ทำให้นกมีที่อยู่ และมีอาหารเป็นจำนวนมาก หรือมีการกำหนดเขตพื้นที่สนามเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ ช่วยให้ปริมาณนกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดหนอนแมลง ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้
    แนวทางการใช้ต้นไม้เพื่อลดปริมาณการใช้สารเคมี เป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายของสนามได้ หากว่าสนามกอล์ฟใดที่เริ่มมีการใช้ต้นไม้เพื่อจุดประสงค์นี้ ก็จะเกิดประโยชน์หลายด้าน ทั้งประโยชน์หลักที่ได้กล่าวแล้ว และยังช่วยลดผลกระทบของการใช้สารเคมีที่มีทั้งต่อตัวผู้ใช้และแหล่งน้ำ อีกทั้งช่วยให้สภาพแวดล้อมดีขึ้น หากสนามกอล์ฟทุกสนามมีการควบคุมระบบนิเวศในสนามให้ดี อาจไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี ทำให้มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเนื่องจาก สภาพอากาศที่ดี ปลอดโปร่ง เป็นสิ่งที่ผู้ใช้บริการต้องการ ดังนั้นแนวทางการเลือกใช้ต้นไม้หากสามารถเลือกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ทำให้สนามกอล์ฟยังคงมีความสวยงาม สามารถลดค่าใช้จ่าย และอยู่รอดต่อไปในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน
  ขอบคุณ ภาพจาก progolf.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น