(นายยักษ์เขียว)
ไอโปรไดโอน
(iprodione)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา dicarboximide ออกฤทธิ์ในทางสัมผัส ให้ผลดี ทั้งในทางป้องกัน และรักษาโรคพืช โดยการไปยับยั้งการขยายพันธุ์และการเจริญเติบโตของเชื้อรา
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 3,500 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 1,000 มก./กก. ทำให้ดวงตาและผิวหนังเกิดอาการระคายเคือง
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคกาบใบแห้ง ที่เกิดจากเชื้อ Thanatephorus cucumeris โรคใบติดที่เกิดจากเชื้อ Rhizoctonia solani โรคใบจุดสีม่วง ที่เกิดจากเชื้อ Alternaria porri และ โรคใบจุดที่เกิดจากเชื้อ A.solani และ A.brassicola โรคเน่า (Botrytis cinerea) และโรคที่เกิดจากเชื้อ Aspergillus spp. , Rhizoctonia spp. , Sclerotium spp.
พืชที่ใช้ ทุเรียน ข้าว กระเทียม หอมใหญ่ หอมแดง ผักกาดเขียว ผักกาดขาว มะเขือเทศ องุ่น มันฝรั่ง ถั่วลันเตา ถั่วเขียว ถั่วลิสง แอสพารากัส และ สตรอเบอร์รี่
สูตรผสม 50% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก ฉีดพ่นให้ทั่วเมื่อตรวจพบว่ามีโรคพืชเกิดขึ้น ใช้ซ้ำทุก 3 อาทิตย์ ตามความจำเป็น หรืออาจใช้ภายหลังการเก็บเกี่ยว โดยการจุ่มหรือคลุกเมล็ดเพื่อป้องกันโรคพืช
อาการเกิดพิษ ผู้ได้รับพิษทางปากอาจมีอาการอ่อนเพลีย หายใจขัด
การแก้พิษ ถ้าถูกผิวหนัง ให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่จำนวนมาก ๆ ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง ถ้าเข้าปากหรือกลืนกินเข้าไป ให้ผู้ป่วยบ้วนปากแล้วไปพบแพทย์ทันที สำหรับแพทย์ ให้ล้างท้องคนไข้ แล้วรักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ - ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว 14 วัน
- เป็นพิษต่อปลา
- อย่าเก็บน้ำยาที่ผสมแล้วไว้นานเกินกว่า 12 ชั่วโมง
- ผสมกับสารกำจัดศัตรูพืชอื่น ๆ ได้
ไอโสโปรธิโอเลน
(isoprothiolane)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา dithiolane ประเภทดูดซึม
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคใบไหม้ของข้าวที่เกิดจากเชื้อ Pyricularia oryzae โรคลำต้นเน่า และโรคใบจุดที่เกิดจากเชื้อ Fusarium spp.
พืชที่ใช้ ข้าว
สูตรผสม 40% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ 40 ซีซี ผสมกับน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นต้นข้าวที่เป็นโรคก่อนปักดำหรือในขณะที่มีโรคระบาด
อาการเกิดพิษ ผู้ได้รับพิษจะมีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ เวียนศีรษะ น้ำลายฟูมปาก หายใจไม่สะดวก ทำให้ดวงตาระคายเคือง
การแก้พิษ ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างด้วยสบู่กับน้ำจำนวนมาก ๆ ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง ถ้าเข้าปาก อย่าทำให้คนไข้อาเจียน รีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ สำหรับแพทย์ ล้างท้องคนไข้ แล้วให้กินถ่านยาแอ๊คติเวทเต็ด ซาร์โคล และยาถ่ายพวกเกลือซัลเฟท รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ - ช่วยลดจำนวนแมลงในนาข้าวได้
- เคลื่อนย้ายในต้นข้าวได้ทั้งทางรากและทางใบ
คาซูกะมัยซิน
(kasugamycin)
การออกฤทธิ์ เป็นสารปฏิชีวนะกำจัดเชื้อรา ประเภทดูดซึมทางใบ ให้ผลในทางป้องกันและรักษาโรคพืช
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 22,000 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 4,000 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคใบไหม้ที่เกิดจากเชื้อ Piricularia oryzae โรคแอนแทรคโนส โรครากำมะหยี่สีเขียว โรคสแคป และโรคที่เกิดจากเชื้อ Septoria spp.
พืชที่ใช้ ข้าว มะเขือเทศ พืชตระกูลแตง ถั่ว คื่นฉ่ายและพืชอื่น ๆ
สูตรผสม 2% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ในกรณีคลุกเมล็ดใช้อัตรา 3 กรัม ต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กก. ถ้าฉีดพ่นใช้อัตรา 30-40 กรัม ผสมกับน้ำ 20 ลิตร กวนให้เข้ากันดี แล้วฉีดพ่นให้ทั่วพื้นที่ เมื่อตรวจพบว่ามีโรคระบาด ใช้ซ้ำได้ทุก 7-10 วัน
อาการเกิดพิษ ถ้ากลืนกินเข้าไปปริมาณมาก ๆ จะทำให้รู้สึกไม่สบาย
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ - ค่อนข้างเป็นพิษต่อผึ้ง
- เป็นสารกำจัดโรคข้าวที่ใช้ได้อย่างปลอดภัย
- ใช้คลุกเมล็ดข้าว จะป้องกันโรคบลาส (Blast) ได้ ประมาณ 1 เดือน
แมนโคเซ็บ
(mancozeb)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา dithiocarbamate ที่ออกฤทธิ์ในทางป้องกันโรคพืช มีความคงตัวมาก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) มากกว่า 8,000 มก./กก. ทางผิวหนัง (หนู) มากกว่า 10,000 มก./กก. อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคแอนแทรคโนส โรคไฟท๊อฟโตรา (Phytophthora) โรคสแคป (Scab) โรคราน้ำค้าง โรคเน่าดำ โรคเน่าสีน้ำตาล (Brown rot) โรค Cercospora และ Septora leaf spot โรค early และ Late blight โรค Alternaria leaf spot โรค Botrytis leaf blight โรค Rhizoctonia brown spot โรคราสนิม (Rust) และ Pythium blight
พืชที่ใช้ กล้วย องุ่น มันฝรั่ง มะละกอ ข้าวสาลี ฝ้าย ถั่วเหลือง ข้าว มะเขือเทศ แตงกวา แตงอื่น ๆ หอม แครอท คื่นฉ่าย ข้าวโพด หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวฟ่าง พืชไร่ทั่วไป พืชสวน ผักต่าง ๆ และไม้ประดับ
สูตรผสม 50% และ 80% ดับบลิวพี 32% เอฟ
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตรา 40 กรัม ผสมกับน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นที่ใบให้ทั่วต้นพืชเมื่อโรคพืชเริ่มระบาด และพ่นซ้ำทุก 7-10 วัน ใช้เป็นสารคลุกเมล็ดได้ด้วย
อาการเกิดพิษ ละอองยาอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่เยื่อบุจมูก ลำคอ ผิวหนัง ทำให้อักเสบ คัน หรือไอ ถ้ากลืนกินเข้าไปจะปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และเกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง
การแก้พิษ ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่มาก ๆ ถ้ากลืนกินเข้าไป ต้องรีบทำให้คนไข้อาเจียนด้วยการล้วงคอ หรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่น สำหรับแพทย์ ทำให้คนไข้อาเจียนหรือล้างท้อง แล้วถ่ายท้องด้วยยาโซเดียมซัลเฟท หรือ แม๊กนีเซียมซัลเฟท ห้ามให้ยาหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไขมัน และน้ำมัน ผสมอยู่ รักษาคนไข้ตามอาการที่ปรากฏ
ข้อควรรู้ - ระยะเวลาก่อนการเก็บเกี่ยว 7-21 วัน
- เป็นพิษต่อปลา
- ในระหว่างเก็บอย่าปล่อยให้เปียกชื้น
- ใช้ผสมกับสารกำจัดศัตรูพืชอื่น ๆ ได้
- ให้ผลดีที่สุดเมื่อใช้ป้องกันโรคพืช
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น