แผนการปฏิบัติงานเพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพ
สําหรับนาข้าวตั้งแต่การเริ่มปลูก-การทำผลผลิตคุณภาพ
ใน เขตชลประทานที่ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ เหมาะที่จะทำนาดำหรือนาหว่านน้ำตมแผนใหม่ โดยนาดำให้เริ่มตกกล้ากลางเดือน กรกฎาคม ปักดำต้นสิงหาคม แล้วข้าวจะออกดอกประมาณ 20 ตุลาคม และเก็บเกี่ยวไดประมาณ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี ส่วนนาหว่านน้ำตมแผนใหม่ ให้หว่านประมาณปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม แล้วเก็บเกี่ยวในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน
นาดำ
การทำแปลง จะต้องไถดะทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน จึงไถแปรอีกครั้ง เพื่อกำจัดต้นอ่อนของวัชพืชที่งอกขึ้นมาใหม่แล้วคราดเพื่อดันวัชพืชให้จม อยู่ใต้โคลน ในขณะเดียวกันก็เกลี่ยโคลนปรับระดับหน้าดินไปด้วย จะทำให้ระดับน้ำในแปลงนาท่วมคลุมวัชพืชไดอย่างทั่วถึง
การดูแลให้ปุ๋ยในนาดำ
ผลผลิตจาก 400 กก. เพิ่มเป็น 1,000 กก. (คุณวันเพ็ญ สุดมี)
ปุ๋ยทางดิน
ครั้งที่ 1 ใสกอนปักดำไมเกิน 1 วัน หรือหลังปักดำประมาณ 10-20 วัน โดยวัสดุปรับปรุงดินเกรด AAA “ตรายักษ์เขียว”สูตรเข้มข้น(แถบเขียว) อัตรา 25-35 กิโลกรัมต่อไร่ ผสมกับปุ๋ยยูเรีย(46-0-0) อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อลดต้นทุนและทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี โดยข้าวจะเจริญเติบโตได้ดีกว่าการใส่ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว ซึ่งหากดินมีสภาพไม่เหมาะสม (คราดยาก หรือดินแข็งแตกระแหง และมีขี้เกลือขึ้น) แนะนำให้ใช้ผสมไบโอเฟอร์ทิล อัตรา 1 ลิตรต่อพื้นที่ 3-5 ไร่ ใส่ไปกับน้ำ ที่ปล่อยเข้านา จะทำให้ดินมีสภาพดีขึ้น ต้นข้าวแตกกอได้ดี และการปลูกคราวต่อไปจะสามารถไถคราดดินได้ง่าย สังเกตเห็นได้ชัดเจน
ครั้งที่ 2 ใสกอนขาวออกดอกประมาณ 30 วัน โดยใชสูตร 21-0-0 ในอัตรา 10 กิโลกรัมตอไร หรือปุยยูเรียสูตร 46-0-0 ในอัตรา 5-10 กิโลกรัมตอไร่ + วัสดุปรับปรุงดินเกรด AAA “ตรายักษ์เขียว”สูตรเข้มข้น(แถบเขียว)อัตรา 25-35 กิโลกรัมต่อไร่ หว่านพร้อมกัน
การฉีดพ่นฮอร์โมนทางใบ
สำหรับทางใบนั้น แนะนำให้ ฉีดพ่นปุ๋ยและฮอร์โมนธรรมชาติ ไบโอเฟอร์ทิล สูตรบำรุงต้น ไล่แมลง อัตรา 20-30 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ทุกเดือนละ 1 ครั้ง(จนถึงข้าวออกดอกใช้ประมาณ 3 ครั้ง) จะทำให้ข้าวกอใหญ่ ต้นพุ่งไม่ล้ม เก็บเกี่ยวง่าย ติดรวงดีมาก จากข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่ พบว่า แปลงข้าวของเกษตรกร ข้าวที่ได้มีเมล็ดเต็มเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว มากกว่า 95 % ทำให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูง คุ้มค่าการลงทุน และยังช่วยลดปัญหาเรื่องแมลงศัตรูพืชอีกด้วย
นาหว่าน
นาหว่านน้ำตมแผนใหม่ มีวิธีการเตรียมดินที่ยุ่งยากกว่า 2 วิธีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากการไถดะทิ้งไวประมาณ 15 วัน
แล้วไถแปรทิ้งไวอีก 7 วัน จากนั้นไถแปรอีกครั้งแล้วคราดเก็บเศษวัชพืชออกให้หมด หรือ เหยียบขี้คราดดันเศษ วัชพืชต่างๆ ให้ลงไปอยู่ใต้โคลน แล้วจึงลูบเทือกให้เรียบสม่ำเสมอ แบ่งแปลงย่อยขนาดกว้าง 3-5 เมตร ทิ้งไว 1 คืน แล้วจึงหว่านเมล็ด หลังจากนั้น 4-5 วัน ให้ทยอยปล่อยน้ำเข้าท่วมหน้าดิน เพื่อคลุมวัชพืชที่งอกตามระดับความสูงของน้ำจนถึงระดับประมาณ 10-15 เซนติเมตร ต้นข้าวจะเจริญเติบโตพอที่จะคลุมวัชพืชได้
การดูแลให้ปุ๋ยในนาหว่าน ควรใส่ 2 ครั้ง คือ
ครั้งที่ 1 ใส่หลังหว่านข้าวแลว 20-30 วัน โดยใสวัสดุปรับปรุงดินเกรด AAA “ตรายักษ์เขียว”สูตรเข้มข้น(แถบเขียว)อัตรา 25-35 กิโลกรัมต่อไร่ ผสมกับปุ๋ยยูเรีย(46-0-0) อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อ ลดต้นทุนและทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี โดยข้าวจะเจริญเติบโตได้ดีใกล้เคียงกับการใส่ปุ๋ยเคมี และหากดินมีสภาพไม่เหมาะสม (คราดยาก หรือดินแข็งแตกระแหง และมีขี้เกลือขึ้น) แนะนำให้ใช้ผสมไบโอเฟอร์ทิล อัตรา 1 ลิตรต่อพื้นที่ 3-5 ไร่ ใส่ไปกับน้ำ ที่ปล่อยเข้านา จะทำให้ดินมีสภาพดีขึ้น ต้นข้าวแตกกอได้ดี และการปลูกคราวต่อไปจะสามารถไถคราดดินได้ง่าย สังเกตเห็นได้ชัดเจน
ครั้งที่ 2 ใสกอนขาวออกดอกประมาณ 30 วัน โดยใชสูตร 21-0-0 ในอัตรา 10 กิโลกรัมตอไร หรือปุยยูเรียสูตร 46-0-0 ในอัตรา 5 กิโลกรัมตอไร่ + วัสดุปรับปรุงดินเกรด AAA “ตรายักษ์เขียว”สูตรเข้มข้น(แถบเขียว)อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ หว่านพร้อมกัน
การฉีดพ่นฮอร์โมนทางใบ
สำหรับทางใบนั้น แนะนำให้ฉีดพ่นปุ๋ยและฮอร์โมนธรรมชาติ ไบโอเฟอร์ทิล สูตรบำรุงต้น ไล่แมลง อัตรา 20-30 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ทุกเดือนละ 1 ครั้ง (ทั้งหมดจนถึงข้าวออกดอกใช้ประมาณ 3 ครั้ง) จะทำให้ข้าวกอใหญ่ ต้นพุ่งไม่ล้ม เก็บเกี่ยวง่าย ติดรวงดีมาก จากข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่ พบว่า แปลงข้าวของเกษตรกร ข้าวที่ได้มีเมล็ดเต็มเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว มากกว่า 95 % ทำให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูง ช่วยลดปัญหาเรื่องแมลงศัตรูพืช
ป้าจำเนียร กับแปลงข้าวที่ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ด้วยไบโอเฟอร์ทิล
ข้อเปรียบเทียบหลังจากใช้ไบโอเฟอร์ทิล และยักษ์เขียว ตามคำแนะนำเป็นประจำ
1. ข้าวเจริญเติบโตได้ดี เขียวทน ต้นแข็งแรง ไม่ล้มง่าย
2. แมลงศัตรูพืชที่เข้า มารบกวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะจำพวกผีเสื้อกลางคืนซึ่งเป็นตัวแม่ของหนอนชนิดต่าง ๆ รวมถึงเพลี้ยกระโดดและด้วงกัดกินใบ ทำให้ประหยัดต้นทุนยากำจัดศัตรูพืช และลดความเสียหายได้ดีกว่า (ในพื้นที่ที่มีการระบาดมาก หากใช้ไบโอเฟอร์ทิล ฉีดร่วมกับยากำจัดศัตรูพืช ก็จะทำให้สามารถคุมและป้องกันการเข้าทำลาย ได้นานขึ้น)
3. ใบข้าวเขียวเงาเป็นมัน อายุใบนานขึ้นทำให้ต้นไม่สูญเสียอาหารในการสร้างใบใหม่ (ไบโอเฟอร์ทิล เป็นสารธรรมชาติ ไม่กัดผิวใบทำให้ใบด้านเหมือนการใช้เคมีอย่างเดียว)
4. ผลผลิตเพิ่มขึ้น ข้าวได้น้ำหนักดี เมล็ดเต็มมากกว่า 95% หมดปัญหาเรื่องข้าวเมล็ดลีบ
5. พื้นดินสภาพดีขึ้น คราดง่าย
6. สุขภาพผู้ปลูกดีขึ้น เนื่องจาก สัมผัสหรือจับต้องสารเคมีน้อยลง
7. ยักษ์เขียว จะสามารถลดต้นทุน การใช้ปุ๋ยลงอีกประมาณ 20-50%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น