วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ตอนที่ 22

โปรโพเซอร์
(propoxur)
การออกฤทธิ์             เป็นสารกำจัดแมลงคาร์บาเมท  ประเภทไม่ดูดซึม  ออกฤทธิ์ในทางสัมผัสสูงและกินตาย  มีฤทธิ์น๊อคแมลงได้อย่างรวดเร็วและอยู่ได้นาน  cholinesterase  inhibitor
ความเป็นพิษ             มีพิษเฉียบพลันทางปาก  (หนู)  70-200  มก./กก.  ทางผิวหนัง  (หนู)  500  มก./กก.  (กระต่าย)  5,000  มก./กก.
ศัตรูพืชที่กำจัดได้        เพลี้ยอ่อน  เพลี้ยหอย  เพลี้ยแป้ง  เพลี้ยจักจั่นสีเขียว  เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล  เพลี้ยกระโดดหลังขาว  เพลี้ยไฟ  หนอนชอนใบ  หนอนผีเสื้อขาว  หนอนใยผัก  มวนเขียวข้าว  นอกจากนี้ยังใช้กำจัดแมลงศัตรูในบ้านเรือน  เช่น  แมลงสาบ  มด  แมลงวัน  ยุง  ไรและเห็บ
พืชที่ใช้                   ส้ม  ข้าว  ผักต่าง ๆ  มันฝรั่ง  ฝ้าย  อ้อย  โกโก้  ถั่วเหลือง  สวนผลไม้  ไม้ดอกและไม้ประดับทั่วไป
สูตรผสม                  20อีซี  และ  50%  ดับบลิวพี
อัตราการใช้               ชนิด  20อีซี  ใช้อัตรา  25-75  ซีซี  ผสมน้ำ  20  ลิตร  ชนิด  50ดับบลิวพี  ใช้อัตรา  10-30  กรัม  ผสมน้ำ  20  ลิตร
วิธีใช้                       ผสมกับน้ำกวนให้เข้ากันดี  แล้วฉีดพ่นให้ทั่วใบพืช  เมื่อพบเห็นว่ามีแมลงศัตรูพืชครั้งแรก  ฉีดซ้ำได้ตามความจำเป็น
อาการเกิดพิษ            จะมีอาการวิงเวียน  ปวดศีรษะ  คลื่นไส้  อาเจียน  ท้องร่วง  ปวดเกร็งช่องท้อง  ม่านตาหรี่  เหงื่อออกมาก  หายใจหอบ
การแก้พิษ                ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่  ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาด  ถ้าเข้าปากต้องรีบทำให้อาเจียนโดยเร็ว  ด้วยการล้วงคอหรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่น  แล้วให้กินยาอะโทรปินซัลเฟท  ขนาด  0.5  มก.  2  เม็ด  พร้อมกับนำส่งแพทย์  สำหรับแพทย์  ยาแก้พิษคือ  อะโทรปินซัลเฟท
ข้อควรรู้                    - ระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว  7-14  วัน
                             - เป็นอันตรายต่อผึ้ง  เป็นพิษต่อปลา
                             - ผสมได้กับสารกำจัดศัตรูพืชอื่น ๆ

โปรธิโอฟอส
(prothiofos)
การออกฤทธิ์             เป็นสารกำจัดแมลงออร์กาโนฟอสโฟรัส  ออกฤทธิ์ในทางสัมผัสและกินตาย  cholinesterase  inhibitor
ความเป็นพิษ             มีพิษเฉียบพลันทางปาก  (หนู)  925  มก./กก  ทางผิวหนัง  (หนู)  มากกว่า  1,300  มก./กก.
ศัตรูพืชที่กำจัดได้        ใช้กำจัดหนอนผีเสื้อที่กัดกินใบพืช  เช่น  หนอนกระทู้หอม  หนอนใยผัก  หนอนกระทู้ผัก  หนอนม้วนใบ  แมลงศัตรูพืชอื่น ๆ  เช่น  เพลี้ยอ่อน  เพลี้ยแป้ง  เพลี้ยไฟ  กำจัดแมลงศัตรูในบ้านเรือน  เช่น  ยุงและแมลงวัน
พืชที่ใช้                   องุ่น  ส้ม  ยาสูบ  ชา  ข้าวโพด  มันฝรั่ง  ผักตระกูลกะหล่ำและผักทั่วไป  พริก  มะเขือ  ถั่วเขียว  กล้วยไม้  ไม้ดอกและไม้ประดับ
สูตรผสม                  50อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้        กำจัดแมลงทั่ว ๆ ไปใช้อัตรา  20-40  ซีซี  ต่อน้ำ  20  ลิตร  ผสมกับน้ำกวนให้เข้ากันดี  แล้วฉีดพ่นที่ใบให้ทั่วต้นพืช  เมื่อพบเห็นแมลงศัตรูพืช  ใช้ซ้ำได้ตามความจำเป็น
อาการเกิดพิษ            จะมีอาการมึนงง  ปวดศีรษะ  อ่อนเพลีย  ม่านตาหรี่  คลื่นไส้  อาเจียน  แน่นหน้าอก  ปวดท้องเกร็ง  น้ำตาและน้ำลายไหล  เหงื่อออกมาก  กล้ามเนื้อกระตุก  ตัวเขียวคล้ำเพราะขาดออกซิเจน
การแก้พิษ                ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างน้ำกับสบู่มาก ๆ  ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดนาน ๆ  ถ้าเข้าปากและมีอาการเป็นพิษ  ควรให้ผู้ป่วยกินยาอะโทรปินซัลเฟท  ขนาด  1/100  เกรน  2  เม็ด  ก่อนแล้วนำส่งแพทย์  สำหรับแพทย์  ใช้ยาอะโทรปินซัลเฟท  ขนาด  2-4  มก.  ฉีดแบบ  IV  กับคนไข้  และฉีดซ้ำทุก  10-15  นาที  จนอาการดีขึ้น  2PAM  และ  Toxogonin  เป็นยาแก้พิษที่ใช้รักษาร่วมกับอะโทรปินได้
ข้อควรรู้                    - ระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว  14  วัน
                             - เป็นพิษต่อปลาและผึ้ง
                             - เมื่ออยู่ในดินจะสลายตัวได้เร็วกว่า  parathion
                             - คุมศัตรูพืชได้ประมาณ  12-20  วัน
                             - ผสมกับสารกำจัดศัตรูพืชอื่น ๆ ได้

โปรโธเอท
(prothoate)
การออกฤทธิ์             เป็นสารกำจัดแมลงและไรออร์กาโนฟอสโฟรัส  ออกฤทธิ์ในทางสัมผัสและกินตาย 
ความเป็นพิษ             มีพิษเฉียบพลันทางปาก  (หนู)  8  มก./กก.
ศัตรูพืชที่กำจัดได้        เพลี้ยอ่อน  เพลี้ยไฟ  ไร  และแมลงอื่น ๆ ที่เป็นศัตรูไม้ผล
พืชที่ใช้                   ไม้ผล  มะม่วง  ฝ้าย  อ้อย  ยาสูบ  องุ่น  ส้ม  พืชผัก  ไม้ดอกและไม้ประดับ
สูตรผสม                  40อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้        ศึกษารายละเอียดจากฉลากก่อนใช้
ข้อควรรู้                    - ห้ามใช้ผสมกับสารที่มีฤทธิ์เป็นด่างสูง
                             - เป็นพิษต่อปลา
                             - ผสมได้กับสารกำจัดศัตรูพืชอื่น ๆ
                             - ใช้กำจัดแมลงปากดูดได้ดีกว่าอย่างอื่น

ไพริดาเบ็น
(pyridaben)
การออกฤทธิ์             เป็นสารกำจัดไร
ความเป็นพิษ             มีพิษเฉียบพลันทางปาก  (หนู)  435  มก./กก.  ทางผิวหนัง  (กระต่าย)  มากกว่า  2,000  มก./กก.
ศัตรูพืชที่กำจัดได้        ไรศัตรูพืชชนิดต่าง ๆ
พืชที่ใช้                   ส้ม  หอม  กระเทียม  ทุเรียน  และไม้ผลต่าง ๆ
สูตรผสม                  20ดับบลิวพี

ควินนัลฟอส
(quinalphos)
การออกฤทธิ์             เป็นสารกำจัดแมลงและไรออร์กาโนฟอสโฟรัส  ออกฤทธิ์ในทางสัมผัสและกินตาย
ความเป็นพิษ             มีพิษเฉียบพลันทางปาก  (หนู)  62-71  มก./กก.  ทางผิวหนัง  (หนู)  1,750  มก./กก.
ศัตรูพืชที่กำจัดได้        หนอนกระทู้ผัก  หนอนคืบกะหล่ำ  หนอนเจาะสมออเมริกัน  หนอนผีเสื้อขาว  หนอนใยผัก  เพลี้ยกระโดด  เพลี้ยจักจั่น  เพลี้ยแป้ง  ไร  เพลี้ยอ่อน  เพลี้ยไฟ  เพลี้ยหอย  และอื่น ๆ
พืชที่ใช้                   ฝ้าย  ส้ม  ยาสูบ  องุ่น  ถั่วลิสง  มันฝรั่ง  ข้าว  ชา  พืชผัก  และอื่น ๆ
สูตรผสม                  1.5ดี , 5%  จี , 25%  อีซี , 27.6ยูแอลวี
อัตราการใช้               แตกต่างกันออกไปตามชนิดของสูตรผสม  ชนิด  25อีซี  เมื่อใช้กำจัดแมลงทั่วไป  ใข้อัตรา  20-40  ลิตร  ผสมน้ำ  20  ลิตร  ชนิด  5จี  ใช้อัตรา  3  กก./ไร่  ชนิดอื่น ๆ  ให้ศึกษาอัตราการใช้จากฉลาก
วิธีใช้                       ชนิด  25อีซี  ใช้ผสมกับน้ำกวนให้เข้ากันดี  แล้วฉีดพ่นที่ใบให้ทั่วต้นพืช  ใช้ซ้ำได้ตามความจำเป็น  ชนิด  5จี  ใช้หว่านให้ทั่วพื้นที่
อาการเกิดพิษ            จะมีอาการมึนงง  ปวดศีรษะ  อ่อนเพลีย  กระวนกระวาย  ปลายลิ้นและเปลือกตามีอาการสั่น  ม่านตาหรี่  คลื่นไส้  อาเจียน  น้ำตาและน้ำลายไหล  เหงื่อออกมาก  ปวดท้องเกร็ง  ชีพจรเต้นช้า  กล้ามเนื้อเกร็ง
การแก้พิษ                ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่  ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก ๆ  ถ้าเข้าปากและมีอาการเป็นพิษ  ให้คนไข้กินยาอะโทรปินซัลเฟท  ขนาด  1/100  เกรน  ต่อ  2  เม็ด  แล้วนำส่งแพทย์  สำหรับแพทย์  ใช้ยาอะโทรปินซัลเฟท  ขนาด  2-4  มก.  ฉีดแบบ  IV  ให้กับคนไข้และฉีดซ้ำทุก  10-15  นาที  จนกว่าคนไข้จะมีอาการดีขึ้น  อาจใช้  2-PAM  รักษาร่วมกับอะโทรปินได้  รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้                    - ระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว  7-21  วัน
                             - เป็นอันตรายต่อผึ้งและปลา
                             - ทำให้ดวงตาเกิดอาการระคายเคือง
                             - อย่าผสมกับสารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง
                             - ผสมได้กับสารกำจัดศัตรูพืชอื่น ๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น